3 นาที

รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Airgle รุ่น AG 300 ดีไซน์สวย พกพาสะดวก

อัพเดตเมื่อ: 10 ม.ค. 2022

อากาศใครว่าไม่สำคัญ เพราะว่าเราต้องหายใจวันละ 24 ชั่วโมง แล้วก็ทุกวันด้วยจริงไหมคะ
 
เรื่องคุณภาพของอากาศในที่ที่เราอยู่ก็เลยจำเป็นจะต้องมีคุณภาพที่ดี

พูดถึงอากาศบ้านเราตอนนี้ฝุ่นเยอะมาก PM 2.5 ก็ไม่เคยแผ่ว เวลาออกจากบ้านแล้วแสบจมูกตลอดเวลา
 
กลับมาที่บ้านก็ยังมีฝุ่นอีกเหมือนเดิม จนเราก็จะมีคำถามว่าเราต้องใช้เครื่องฟอกอากาศใช่ไหม แล้วเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดีนะ

ที่จริงแล้วตอนที่เราหายใจอยู่ ไม่ได้มีปัญหากับ ฝุ่น ผง มลภาวะ เท่านี้นะคะ

ยังมีพวกกลิ่นต่าง ๆ อย่างกลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นเฟอร์นิเจอร์ใหม่
 
ก็ทำให้ปวดหัว เสียสุขภาพได้เหมือนกัน

บางคนเป็นภูมิแพ้ด้วยยิ่งแย่เลย

ตอนนี้มิกิลองใช้เครื่องฟอกอากาศ Airgle AG300 สำหรับใช้ในห้อง มาประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ
 
เห็นขนาดเล็กกระทัดรัดแบบนี้ เป็นเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์เลยนะคะ

AG300 เป็นเครื่องฟอกอากาศกำจัดเชื้อโรคที่ผ่านการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการความปลอดภัย

ทางชีวภาพ ระดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา
 
สามารถกำจัดไวรัส SARS-Cov-2 ที่ทำให้เกิดโรค Covid ในอากาศได้ถึง 99.998%
 
กรองฝุ่น PM2.5 ได้เล็กถึง 0.003 ไมครอน ประสิทธิภาพสูง 99.999%

Airgle ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์กับ US FDA ( เครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ )
 
และ Ozone Free ไม่ก่อให้เกิดโอโซนทำร้ายปอด100%

อุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง

• เครื่องฟอกอากาศ Airgle AG300
 
• รีโมทคอนโทรล
 
• สายไฟ
 
• คู่มือการใช้งาน ( อ่านเข้าใจง่าย )

มิกิชอบดีไซน์ตัวเครื่องนะ ดูทันสมัย วัยรุ่น น่ารักดี
 
ขนาดกำลังพอเหมาะ สีขาว – เทา มินิมอล วางเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านได้เนียน ๆ

มาดูข้อมูลตัวเครื่องกันค่ะ

ขนาดเครื่อง : สูง 13.3 x กว้าง 11.7 x ลึก 9.7 นิ้ว
 
น้ำหนัก : 5.7 Kg.
 
วัสดุ : PC + ABS Plastic
 
CADR : 170 ลูกบาศก์เมตร /ชั่วโมง
 
Coverage area ( พื้นที่ครอบคลุม ) :
 
36 ตรม. ( Area covers per 30 min ; 2 ACH )
 
24 ตรม. ( Area covers per 20 min ; 3 ACH )
 
14.4 ตรม. ( Area covers per 12 min ; 5 ACH )​
 
ขนาดห้อง : 40 ตรม.

*CADR = อัตตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์
 
* ACH = จำนวนรอบของการไหลเวียนอากาศ ที่ไหลผ่านเครื่องฟอกอากาศ

PC ( โปลีคาร์บอเนต ) = พลาสติกใสชนิดที่แข็งแรง ทนทาน ทนความร้อน ได้ดีที่สุด
 
ABS Plastic = พลาสติกที่ทนความร้อน สารเคมี แรงกระแทกได้ดี นิยมใช้ทำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า

ตรงนี้เป็นเซนเซอร์สำหรับดักจับฝุ่น อนุภาคในอากาศขนาดเล็ก ๆ

ที่เสียบสายปลั๊กไฟ

ตรงหน้าจอดิจิตอลดึงขึ้นมาเป็นที่หิ้วเครื่องได้ด้วย เวลาถือย้ายเครื่องไปที่อื่นก็ถือสะดวก

มิกิว่าเขาออกแบบได้ดีนะ ถ้าไม่ดึงขึ้นมาคือจะไม่รู้เลยว่าเป็นที่จับ

ส่วนขอบเครื่องทุกด้านเป็นแบบโค้งมน ช่วยลดอันตรายจากการบาดเจ็บได้ด้วย

บ้านไหนมีเด็ก มีสัตว์เลี้ยง ที่อาจจะเผลอวิ่งไปชน ก็ไม่ทำให้ถึงกับบาดเจ็บค่ะ

วิธีการถอดไส้กรองออกมาเปลี่ยน

ชั้นที่ 1 หมุนตามลูกศรที่ปุ่มสีขาวทั้ง 2 ด้านเบา ๆ แล้วเปิดออกมาได้เลย

ชั้นที่ 2 จะมีริบบิ้นให้เราดึงออกมาได้ง่ายขึ้น

ชั้นที่ 3 กดปลอดล็อคแล้วดึงออกมา

ชุดแผ่นกรองภายใน Set 3 ชิ้น
 
Airgle เป็นแบรนด์เดียวในไทยที่ใช้แผ่นกรอง cHEPA เกรด H14
 
ซึ่งเป็นเกรดที่สูงที่สุด กรองได้ละเอียดที่สุด
 
ผลดีอีกอย่างคือใบพัดและมอเตอร์จะสะอาดอยู่เสมออีกด้วย

เวลาที่จะเปลี่ยนแผ่นกรอง ก็เปลี่ยนทั้ง Set เลย สะดวกดี

วิธีการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
 

1. ชั้นแรกคือ Carbon Filter เป็นตะแกรง สำหรับกรองขนสัตว์เลี้ยง เส้นผม ฝุ่นขนาดใหญ่
 
ดูดซับกลิ่นสารเคมี สารก่อมะเร็งโพรงจมูกทุกชนิด

2. ชั้นสอง cHEPA H14 จะดักจับฝุ่นละอองและเชื้อโรค ได้ขนาดเล็กถึง 0.003ไมครอน คือขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่าเลย

3. ชั้นที่สาม Titanium Pro UV ฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และมลพิษ ที่เล็กถึง 0.001 ไมครอน
 
ได้ถึง 99.9999 % คือเป็นการกำจัดเชื้อโรคที่ต้นตอจริง ๆ
 
กำจัดไวรัส, แบคทีเรีย, สารก่อภูมิแพ้, PM2.5 ได้ครบ
 
กรองได้เล็กถึง 0.003ไมครอน ประสิทธิภาพสูง 99.999%

ได้รับการันตีจาก US FDA
 
ตัวแผ่นกรองจะมีอายุการใช้งาน 10 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

Carbon Filte ช่วยกรอง กลิ่น สิ่งสกปรกแปลกปลอมเบื้องต้น

แผ่นกรอง cHEPA เกรด H14 เป็นเกรดที่สูงที่สุด กรองได้ละเอียดที่สุด

แท่ง Titanium Pro UV เป็นเทคโนโลยีย่อยสลายเชื้อโรคด้วย UVC เราถอดออกมาเปลี่ยนได้
 
ได้จดสิทธิบัตรจาก USA เฉพาะ Airgle เท่านั้นด้วย

ตัวเครื่อง Airgle AG300 ซีลมาแบบสูญญากาศ
 
ตรงนี้ทำให้เราไม่ต้องกลัวเรื่องความชื้นที่อาจจะทำให้ไส้กรองมีเชื้อราได้

รุ่่นนี้ควบคุมการทำงานของเครื่องได้ 3 ทาง

• กดที่หน้าจอควบคุมบนเครื่อง

• ใช้รีโมทคอนโทรล

• ใช้ Application เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ กับทุกการใช้งานเลยค่ะ

ด้านบนเครื่อง เป็นหน้าจอดิจิตอล แสดงผลการใช้งาน กับ ควบคุมการใช้งาน

ระดับความแรงจะมีอยู 1 – 5 ระดับ
 
( ระดับ 5 ให้กดปุ่มพัดลมค้างไว้ )

เสียงรบกวน แต่ละระดับ (dB) : 32 / 38 / 48 / 55 / 65
 
ระดับเทอร์โบ 65 dB ก็จะประมาณเสียงฝนตก เสียงคนคุยกัน

โหมดการใช้งาน
 
Manual : เราควบคุมความแรงเอง
 
Auto : เครื่องจะใช้เซนเซอร์ดักจับฝุ่นในห้องแล้วเลือกความแรงให้เหมาะสม
 
Night : จะเข้าโหมดเสียงเงียบ และ ไฟหน้าจอดับ

กดปุ่มโหมดค้าง สำหรับเปิด – ปิด การใช้งาน Titanium Pro UV

มาถึงการใช้รีโมทคอนโทรล มีอยู่ 4 ปุ่ม ใช้ง่าย มีสัญลักษณ์คล้าย ๆ กับบนตัวเครื่องเลย

• ปุ่ม เปิด – ปิด
 
• ปุ่ม โหมดการใช้งาน
 
• ปุ่ม ความแรงของลม
 
• ปุ่ม เทอร์โบ

สะดวกดีนะ เวลาที่เรากำลังนั่งดูหนัง ทำงาน พักผ่อน ก็กดใช้งานได้เลย ไม่ต้องเดินไปเปิดเครื่อง
 
หรือกำลังจะนอนแล้ว อยากเปลี่ยนโหมด ก็ทำได้แบบไม่ต้องลุกออกจากเตียง

แต่ . . . มากกว่าความสบายของการใช้รีโมทคอนโทรล ก็ยังมีสั่งงานผ่าน Application ค่ะ
 
การใช้แอพฯ จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่มากกว่าแตะที่ตัวเครื่องอย่างเดียวด้วย
 
ขอแค่ที่วางเครื่อง กับ สมาร์ทโฟนเรามี Wi-Fi ก็สั่่งงานใช้เครื่องได้ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก
 
มิกิมองว่าถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็ก คนสูงอายุ สัตว์เลี้ยง อันนี้คือน่าสนใจมาก

การสั่งงานผ่าน Application ให้เราโหลด App Airgle ลงในสมาร์ทโฟนก่อนค่ะ

ได้ทั้ง IOS และGooglePlay

ขั้นตอนการใช้งาน Application Airgle

1. เปิด Application ขึ้นมา

2. ลงทะเบียน ใส่เบอร์โทร หรือ อีเมล์

3. เอา Code ที่ส่งมาทางเบอร์โทร / อีเมล์ที่เราสมัคร มาใส่

4. ตั้ง Password

5. กดเข้าแอพฯ

6. เลือก Device

7. จะมีรุ่นของเครื่องฟอกอากาศ Airgle ขึ้นมา ให้เราเลือกรุ่นที่เราจะเชื่อมต่อ ( Airgle AG300 )

8. จะมีสัญลักษณ์ Wi-Fi กระพริบขึ้นมาตรงด้านขวา เท่านี้ก็เชื่อมต่อสำเร็จค่ะ

แต่ถ้าเชื่อมต่อไม่ได้ ให้ลองปิดแอพ และ เครื่องฟอกอากาศ แล้วเปิดใหม่
 
กดปุ่ม Reset ที่ตัวเครื่อง 5 วินาที จนมีสัญลักษณ์ Wi-Fi กระพริบ
 
แต่ถ้ายังไม่ได้อีก ให้ลองเช็คเครื่องข่าย Wi-Fi ที่เราใช้อยู่
 
หรือลองดึงปลั๊กเครื่องฟอกอากาศสัก 10 วิแล้วลองทำตามขั้นตอนใหม่อีกครั้ง

รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ความถี่เครือข่ายแบบเดี่ยว 2.4 GHz
 
( แอพพลิเคชั่นะไม่รองรับความถี่แบบ 5GHz และแบบความถี่คู่ 2.4/5 GHz )

หน้าจอนี้จะบอกคุณภาพของอากาศภายในห้อง

( มิกิเปิดเครื่องฟอกอากาศก่อนเชื่อมต่อกับ App มาสักพักนึงแล้ว )

มีบอกสถานะของ cHEPE/Carbon Filter กับ Titanium Pro UV ด้วย

ว่าใช้งานไปแล้วกี่ % ต้องเปลี่ยนไส้กรอง หรือ แท่ง UV หรือยัง

• เปิด – ปิด เครื่องฟอกอากาศ

• ตั้งเวลาให้เครื่องทำงานล่วงหน้า

• ตั้งวันที่ต้องการให้เครื่องทำงาน

• ปรับโหมดการใช้งาน

• ควบคุมระดับแรงลม

• เปิด – ปิด Titanium Pro UV

ปุ่ม Child lock สำหรับล็อคปุ่มที่หน้าจอบนตัวเครื่องฟอกอากาศ

สำหรับเวลาที่เด็กจะไปเล่นซนแล้วกดหน้าจอเล่น

เป็นเครื่องฟอกอากาศเสียงเบานะ ไม่รบกวนเวลานอน หรือว่าเวลาใช้สมาธิเท่าไหร่

ด้วยความที่เขาน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก ถือไปไหนก็ได้แบบสะดวกมาก ๆ

ก็เลยพาติดตัวไปทุกห้องเลย ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น
 
หรือจะพกไปใช้เวลาที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดได้ด้วย

Airgle AG 300 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของค่ะ
 
เสียงไม่ดังจนน้องหมารู้สึกตกใจ หรือ รำคาญ
 
คุณฟูจีจี้เป็นน้องหมาที่ค่อนข้างขี้ตกใจง่ายมาก เสียงดังหน่อยก็จะตกใจละ
 
แต่เป็นเครื่องนี้คือนั่งติดได้แบบชิล ๆ เลย

กลิ่น บ้านไหนที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นของสัตว์เลี้ยง เครื่องฟอกอากาศก็ช่วยดูดกลิ่นได้ด้วยเหมือนกัน
 
อย่างบางทีเราชินกับกลิ่นสัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่เวลาเพื่อนมาบ้านเขาอาจจะรู้สึกได้ถึงกลิ่น
 
เปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ก่อนจะได้สบายใจทั้งเจ้าของบ้านแล้วก็แขกที่มาค่ะ
 
( รวมพวกกลิ่นอื่น ๆ อย่าง กลิ่นอาหาร กลิ่นควัน กลิ่นบุหรี่ ก็ช่วยได้ )

ภูมิแพ้ – ขนสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้ได้เหมือนกันฝุ่นเลยค่ะ
 
มิกิแพ้ขนแมวหนักมาก ขนหมาแพ้นิดหน่อย ทำให้เครื่องฟอกอากาศนี่คือไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ
 
เพราะคุณฟูจีจี้เขาจะเดินไปทั่วบ้าน หยุดเกาบ้าง สะบัดขนบ้าง
 
พอใช้ Airgle AG 300 ก็ช่วยเรื่องอาการภูมิแพ้ไปได้เยอะมาก สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าได้เต็มปอด
 
แล้วดีตรงที่เราหยิบเครื่องติดตัวไปได้ทุกห้องแบบไม่ต้องให้คนมาช่วยยกเลย

วิธีทำความสะอาดเครื่อง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดที่ด้านนอกเครื่องก็พอค่ะ

หลังจากที่ใช้งานมา 7 วันเต็ม ๆ รู้สึกว่าตอนเปิดเครื่องอากาศในห้องดีขึ้นมาก สูดหายใจได้แบบเต็ม ๆ
 
พวกกลิ่นแปลกปลอมหายไป ยิ่งตอนเข้าตื่นขึ้นมาแล้วไม่คัดจมูก แสบคอ อาการหูอื้อตอนเจอฝุ่นเยอะ ๆ
 
ก็ไม่เป็นแล้ว
 
อากาศดีทำให้เรานอนหลับสนิท ตื่นมาสดชื่นด้วยค่ะ
 
⠀⠀

• เครื่องฟอกอากาศ Airgle รุ่น AG 300 ราคา 29,900 บาท
 
• Airgle Filter สำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่น AG300 ราคา 3,300 บาท

ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี ใบรับประกันดูที่ QR Code ด้านข้างตัวเครื่องเลยค่ะ

ลองมาคิดดูเล่น ๆ ว่าการใช้งาน 2 ปี ( เปลี่ยน Filter 1 ครั้ง ) จะคุ้มค่าไหม
 
29,900 + 3,300 = 33,200 บาท
 
เท่ากับว่าเราซื้ออากาศบริสุทธิ์หายใจทั้งห้องในราคาแค่วันละ 46 บาทเท่านั้นเอง
 
ถ้าเราสูด PM 2.5 ไปเยอะ ๆ เรื่อย ๆ อาจจะทำให้เกิด ภูมิแพ้, โรคปอด,
 
หรืออาจจะร้ายแรงไปถึงโรคมะเร็งปอด
 
ตรงนี้คือค่ารักษาโหดกว่าค่าเครื่องฟอกอากาศเยอะมาก
 
รวม ๆ แล้วจากคุณสมบัติที่มีของ เครื่องฟอกอากาศ Airgle รุ่น AG 300 มิกิคิดว่าคุ้มค่านะ
 
ทั้งเรื่องขนาด น้ำหนัก เคลื่อนย้ายง่าย ดีไซน์สวยด้วย
 
จะซื้อเป็นของขวัญให้คนพิเศษก็น่ารักดีนะคะ เหมือนซื้อสุขภาพที่ดีให้คนที่เรารักนะ
 
⠀⠀

เพื่อน ๆ ที่กำลังคิดจะซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ขนาดกำลังดี ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา
 
เคลื่อนย้ายสะดวก เข้าไปดูรายละเอียด ช่องทาง โปรโมชั่น สั่งซื้อ ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ
 
Airgle Online Store : www.airglethailand.com/eshop
 
​Lazada : www.lazada.co.th/shop/airgle-thailand
 
​Shopee : shopee.co.th/airgle_thailand
 
​HomePro : www.homepro.co.th/search?q=airgle
 
​Habitech : www.habitech.store/airgle
 
​LINE : shop.line.me/@airglethailand

รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Airgle AG300 ไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ
 
ได้ข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มขึ้นนะคะ
 
เอาไว้ถ้ามีโอกาส จะทำเป็นแบบคลิปอธิบายการใช้งานให้เข้าใจ
 
ครั้งหน้ากลับมาเจอกันใหม่ค่ะ

ที่มา : Misasaki in Wonderland

Facebook : ♥ Misasaki in WonderLand ♥

74
0