5.
ใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และทนทาน
Airgle มีการเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน ตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) มากไปกว่านั้น ยังสามารถทนทานต่อรังสี UV ที่ถูกบรรจุอยู่ในตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีเยี่ยม โดย AG600 และ AG900 ใช้วัสดุจากอะลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งมีความทนทานต่อรังสี UV รวมไปถึงไม่ก่อให้เกิดความชื้น ซึ่งป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของรุ่น AG300 และ AG25 ใช้วัสดุ ABS และเคลือบด้วยสารป้องกัน UV วัสดุมีความเหนียวและทนทานต่อ UV เช่นกัน
6.
คำนวนขนาดพื้นที่ที่รองรับ ตรงตามมาตรฐาน AHAM
เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อต่างๆ มีการใช้วิธีคำนวณพื้นที่ที่รองรับแตกต่างกันไป แต่ Airgle แตกต่างจากแบรนด์ทั่วไปโดยคำนวณจากอัตราการปล่อยอากาศบริสุทธิ์ (CADR)ตามมาตรฐานที่สมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ภายในบ้านอิสระ (Association of Home Appliance Manufacturers, AHAM) กำหนดไว้ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเลือกรุ่น Airgle ที่เหมาะสมตามขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้ได้จริง
7.
การทำงานของเครื่องที่เงียบเป็นพิเศษ
หากผู้ใช้ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่มีเสียงเงียบ และไม่รบกวนการนอนหลับ Airgle มีการออกแบบระบบมอเตอร์และใบพัดเพื่อลดแรงต้านลม ทำให้มีเสียงการทำงานที่เบามาก ยิ่งไปกว่านั้นระบบหน้าจอของเครื่องยังสามารถปิดแสงไฟได้ เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับของผู้ใช้
8.
ประหยัดไฟ
เครื่องฟอกอากาศ Airgle ทุกรุ่นมีการใช้พลังงานที่ต่ำมาก ซึ่งได้รับการรับรองโดย US Energy Star ว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ประหยัดพลังงานไฟฟ้า
9.
ระบบสั่งการผ่าน รีโมทอินฟาเรด และ แอพพลิเคชั่น
นอกจากการควบคุมปุ่มต่างๆบนตัวเครื่องแล้ว Airgle ยังมี "รีโมทคอนโทรลอินฟราเรด" และ "การควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" * ซึ่งสามารถควบคุมได้ทั้งประเภทขั้นพื้นฐาน เช่น การปรับความเร็วลม หรือการเลือกโหมด และสามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่อง ตรวจสอบอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ และตั้งค่าล็อคป้องกันเด็กสัมผัสได้อีกด้วย
*ไม่มีในรุ่น AG25
MORE DETAIL : AIRGLE WEBSITE สั่งซื้อได้ที่ : Airgle eshop | Retail stores | Corporate purchase